รู้ทันโรคอัมพฤต-อัมพาต

ความรู้เรื่องโรคอัมพฤต อัมพาต

สาเหตุเป็นเพราะเส้นเลือดตีบ
โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งประกอบไปด้วย3โรคหลัก ได้แก่ เส้นเลือดสมองตีบ แตก และอุดตัน
โดยที่เส้นเลือดสมองตีบเป็นแบบที่พบได้มากที่สุด (80-85%) เส้นเลือดที่ตีบเกิดจากการหนาตัวของผนังหลอดเลือดรวมทั้งอาจมีเกล็ดเลือด หรือองศ์ประกอบอื่นๆของเลือดมาสะสมตามผนังหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลผ่านได้น้อยลง ถ้าเป็นมากก็จะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ เกิดความเสียหายต่อเซลล์สมองบริเวณนั้นๆ 

มีอาการอย่างไรบ้าง 
เนื่องจากสมองมีหลายส่วน แต่ละส่วนมีหน้าที่แตกต่างกันไป ดังนั้น อาการ ในผู้ป่วยแต่ละรายขึ้นกับริเวนของสมองที่มีเส้นเลือดตีบ อาการที่พบได้แก่

1. แขนขาอ่อนแรง ชาซีกใดซีกหนึ่งขยับไม่ได้
2. ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด หรือสำลัก
3. พูดไม่ได้ หรือฟังไม่รู้เรื่อง
4. เวียนศีรษะมาก
5. ตาข้างใดข้างหนึ่งมองไม่เห็น

ลักษณะสำคัญของอาการที่เกิดคือเป็นค่อนข้างเร็ว กะทันหันภายในเวลาเป็นนาที หรืออาจเป็นหลังตื่นนอน โดยที่ก่อนเข้านอนยังปกติอยู่

รักษาโรคเฉพาะของสตรี

โรคของสตรี สตรีมีอวัยวะสืบพันธุ์ที่สลับซับซ้อนแตกต่างจากบุรุษมาก และร่างกายของสตรีส่วนใหญ่รับภาระในการให้กำเนิดบุตร ฉะนั้นอวัยวะภายในของสตรีจึงต้องทำงานหนักเป็นพิเศษเป็นเวลานานก่อนการมี บุตรแต่ละคน และถ้ามีบุตรหลายคน อวัยวะเหล่านั้นก็ยิ่งต้องทำงานมากขึ้นอีกหลายเท่า จึงปรากฏว่าสตรีมีโอกาสเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของอวัยวะภายใน ที่ต่างไปจากบุรุษหลายอย่าง เช่น

โรคเกี่ยวกับประจำเดือน

1.1 ความผิดปกติ เกี่ยวกับระยะเวลาของรอบเดือน เช่น

• มาช้ากว่าปกติ
• มาเร็วกว่าปกติ
• ขาดหายไปเป็นเวลาหลายเดือน โดยไม่ได้ตั้งครรภ์

1.2 ความผิดปกติเกี่ยวกับจำนวนเลือดที่ออก เช่น

• จำนวนน้อยกว่าปกติ
• จำนวนมากกว่าปกติ

1.3 อาการปวดต่างๆ ในช่วงระยะก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน

• ปวดศีรษะ
• ปวดคัดตึงหน้าอก
• ปวดเมื่อยเอว
• ปวดท้องน้อย

การรักษาโรคกระดูกคอ อาการปวดต้นคอ

โรคกระดูกคอ อาการปวดต้นคอมีหลายประเภท เช่น

ประเภทที่ 1 อาการปวดเฉพาะที่ลำคออย่างเดียว ปวดชนิดไม่สามารถหันหรือเอียงศีรษะได้ เรามักจะเรียกอาการชนิดนี้ว่า คอเคล็ดจากการนอนตกหมอน ผู้ป่วยลักษณะนี้มีอาการเจ็บปวดรุนแรงมากเมื่อมีการเคลื่อนไหว แต่รักษาไม่ยาก หายเร็ว

สาเหตุมักเกิดจากการอดนอนต่อเนื่อง ดื่มสุรา มีความร้อนที่ปอดสูง ท้องผูก ลักษณะการนอนไม่ถูกต้อง

การรักษา ถ้าเป็นไม่มาก เพียงพักผ่อนนอนแต่หัวค่ำ ดื่มน้ำให้มาก ให้ระบายท้อง ทานยาแก้ปวดบรรเทา ปรับลักษณะการนอนให้ถูกต้อง ไม่ควรนวดหรือกดรุนแรง เพียงใช้ฝ่ามือกดคลึงเบาๆ อาการนี้สักวันสองวันก็หายได้ ถ้าไม่หายควรไปพบแพทย์

ประเภทที่ 2 มีอาการปวดที่ลำคอ อาการปวดรุนแรง ไม่สามารถหันหรือเอียง ศีรษะได้ เวลาปวดจะมีอาการคล้ายไฟฟ้าช๊อต ปวดร้าวถึงหัวไหล่ ต้นแขน และอาจถึงปลายมือ อาการปวดประเภทนี้รุนแรงและมีสาเหตุมากกว่าประเภทแรก

สาเหตุของการปวดต้นคอประเภทนี้ เกิดจากข้อกระดูกคอเสื่อมอยู่ก่อน และเมื่อมีการเคลื่อนไหวก้มเงย หรือหันผิดจังหวะ ทำให้ข้อกระดูกคอเคลื่อนและกดทับเส้นประสาท อาการลักษณะนี้ควรจะรีบไปพบแพทย์

ถ้าอาการรุนแรง แพทย์อาจจะแนะนำคนไข้ให้รักษาโดยการผ่าตัด แต่ถ้าอาการไม่รุนแรงมาก แพทย์จะรักษาด้วยการฝังเข็ม

หากท่านมีอาการดังกล่าว เชิญพบแพทย์แผนจีนครับ
ติดต่อเพื่อนัดเวลาได้ที่ 02-574-3075 เวลา 9.00 - 17.00 น

ฝังเข็มรักษาโรคปวดศีรษะ อาการเจ็บป่วย

โรคปวดศีรษะ อาการเจ็บป่วยหรือความรู้สึกไม่สบายตัว แต่ตรวจไม่พบโรค

สาเหตุ เกิดจากความเสื่อมถอยหรือความไม่สมดุลระบบการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย
อาการปวดศีรษะมีหลายชนิด ลักษณะการปวดมีหลายระดับ หลายสาเหตุ
อาการปวดศีรษะจากไข้หวัด ปวดศีรษะจากการได้รับอุบัติเหตุ ปวดศีรษะจากการเกิดเนื้องอกภายในสมอง อาการปวดศีรษะเหล่านี้เป็นโรคปวดศีรษะเฉพาะโรคที่ตรวจพบได้
ยังมีอาการปวดศีรษะอีกหลายชนิดที่มีลักษณะอาการปวดแตกต่างกับ...ชนิดเบื้องต้น โดยการแพทย์แผนจีน วินิจฉัยว่าเกิดจากการทำงานบกพร่อง หรือไม่สมดุลของอวัยวะ ตับ หัวใจ ม้าม ปอด และไต เป็นต้น ความสำคัญของอวัยวะที่สัมพันธ์กับโรคตามลำดับ

การรักษาโรคปวดศีรษะ โดยศาสตร์การแพทย์แผนจีน

1. อาการปวดศีรษะ ปวดตื้อ หนักศีรษะ
2. อาการปวดศีระษะ มึนงง วิงเวียนศีรษะ
3. อาการปวดศีรษะ ข้างใดข้างหนึ่ง (ไมเกรน)
4. อาการเครียด จิตใจไม่แจ่มใส อ่อนเพลีย
5. อาการนอนไม่หลับ หลับยากหรือหลับไม่สนิท
6. อาการปวดศีรษะทั่วไป

หากท่านมีอาการดังกล่าว เชิญพบแพทย์แผนจีนเพื่อตรวจรักษา
ติดต่อเพื่อนัดเวลาได้ที่ 02-574-3075 เวลา 9.00 - 17.00 น

การรักษาโรคอ้วนด้วยวิธีการฝังเข็ม

ลดอ้วน ลดโรค

ความอ้วนเป็นเหตุให้เกิดโรคหลายชนิด เช่น

• โรคเบาหวาน
• โรคความดันโลหิต
• โรคหัวเข่าเสื่อม
• โรคนอนกรน
• โรคเส้นเลือดสมองตีบ 

การฝังเข็มช่วยลดน้ำหนักได้โดยจากปฏิกิริยาของเข็มที่ปักลง ณ จุดรักษา
ทำให้เกิด "พลังชี่" ซึ่งอาศัยเส้นจิงลั่ว เป็นสื่อส่งเข้าไปกระตุ้นอวัยวะที่เกี่ยวข้องในระบบย่อยให้เกิดกลไกในการดูด ซึมสารอาหารไปใช้เป็นพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยร่างกายขับความชื้นหรือสารอาหารส่วนเกินที่ร่างกายไม่ต้องการออก จากร่างกาย ควบคุมการย่อยอาหารที่ผิดปกติ

ในกรณีที่ผู้ป่วยโรคอ้วนบางรายที่มีความหิวผิดปกติ
การรักษาโรคอ้วน โดยหลักศาสตร์การแพทย์แผนจีนซึ่งใช้หลักธรรมชาติในการรักษา ผู้ป่วยโรคอ้วนที่เกิดจากความผิดปกติในการทำงานของวัยวะภายในร่างกายเป็น เหตุให้เกิดน้ำหนักส่วนเกิน เมื่อได้มีการรักษาอย่างถูกต้องอวัยวะภายในจะเกิดการปรับตัว เราจะรู้สึกว่าร่างกายกระชับขึ้น การเคลื่อนไหวคล่องตัวขึ้น น้ำหนักตัวค่อยๆลดลง

ข้อแนะนำจากแพทย์จีน เรื่องควรปฏิบัติควบคู่กับการรักษาโรคอ้วน

1. ไม่ควรอดอาหาร ควรทานอาหารครบ 3 มื้อ ใช้หลักการ ทานไม่ให้หิวแต่ไม่ต้องทานให้อิ่ม
2. ควรเลือกอาหารที่มีสารเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบภายในร่างกาย
3. ไม่ควรทานอาหารที่ตนเองชอบ แต่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น อาหารมันทุกชนิด เครื่องดื่มที่มีความหวาน ขนมหรือผลไม้ที่มีรสหวาน และส่วนประกอบของแป้งและไขมันมากเกินไป
4. ไม่ควรทานอาหารมื้อเย็นใกล้กับเวลาพักผ่อนมากเกินไป
5. ควรออกกำลังกายแต่พอเหมาะ ตามสภาพร่างกาย สม่ำเสมอและเป็นประจำ สถานที่ควรเป็นกลางแจ้ง ขณะที่อากาศไม่ร้อน และไม่มีความชื้น หรือในอาคารนอกห้องแอร์ ควรมีผ้าเช็ดตัวคอยซับเหงื่อที่ออกทันที

ผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตราฐาน ในเบื้องต้นควรระวังและหลีกเลี่ยงอาหารที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ท่านใดมีน้ำหนักเกินมาตราฐาน และรู้สึกไม่สบายตัว หรือมีอาการดังกล่าวไปแล้วข้างต้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาแต่เนิ่นๆ

มาทำความรู้จักกับโรคภูมิแพ้กันไว้ก่อนไหม

โรคภูมิแพ้ เป็นกลุ่มของโรคที่เกิดขึ้นในบุคคลบางกลุ่ม เนื่องจากร่างกายของผู้นั้นมีปฏิกิริยาต่อสารที่เข้าไปในร่างกายผิดไปจากคน ส่วนใหญ่ โรคนี้เกิดขึ้นกับคนทั่วไป

อาการของโรคภูมิแพ้ เกิดขึ้นเนื่องจากปฏิกิริยาระหว่างสารก่อภูมิแพ้ซึ่งเป็นสารจากภายนอกเข้าไป ในร่างกายปะปนกับ "ภูมิแพ้" ซึ่งเป็นสิ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นมา หลังจากได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าไปกระตุ้น ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นอาจทำให้เกิดโรคขึ้นได้ในหลายระบบอวัยวะของร่างกาย อาจแสดงออกทางผิวหนัง เช่นลมพิษ อาจแสดงออกระบบทางเดินอาหาร เช่น อาเจียน อุจจาระร่วง ในบางรายอาจมีอาการรุนแรง หายใจไม่ออกและถึงแก่ความตาย

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้...

1. กรรมพันธุ์ เช่น โรคหืด จมูกอักเสบจากการแพ้
2. สารก่อภูมิแพ้ เมื่อสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายมากและบ่อยครั้ง ยิ่งมากเท่าใด โอกาสเกิดอาการแพ้ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีแนวโน้มในการเกิด โรคภูมิแพ้ อยู่แล้ว เช่น มีกรรมพันธุ์ก็ยิ่งจะมีโอกาสเป็นได้ง่ายขึ้น สารก่อภูมิแพ้จะไปออกฤทธิ์ต่ออวัยวะที่ตอบสนอง แต่ละคนมีอวัยวะที่ตอบสนองต่างกัน แม้ว่าจะได้รับสารก่อภูมิแพ้อย่างเดียวกัน เช่น การแพ้ฝุ่นบ้าน บางคนอาจแสดงออกโดยอาการหอบ หืด บางคนอาจแสดงออกเพียงน้ำมูกไหล จาม และคัดจมูกเท่านั้น

การรักษาโรคด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน

กรณีผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ที่มีประวัติจากกรรมพันธ์ มักจะมีสุขภาพร่างกายอ่อนแอ อ่อนเพลียง่ายกว่าผู้อื่น การรักษาโรคภูมิแพ้เนื่องจากกรรมพันธุ์ โดยศาสตร์การแพทย์แผนจีน

1. รักษาตามอาการที่เกิดขึ้น
2. ปรับสมดุลอวัยวะปอดและม้ามให้แข็งแรง
3. ปรับรักษาความสมดุลของอวัยวะอื่น ให้แข็งแรง

เพื่อให้เกิดการสร้าง "เจิ้งชี่" คือ พลังงาน ภูมิต้านทานโรค เมื่อ "เจิ้งชี่" แข็งแรงสมบูรณ์ ก็จะผลักดันให้เกิด "เว่ยชี่" เป็นพลังงานภูมิป้องกันโรค ช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรคมากขึ้น เมื่อระบบอวัยวะภายในร่างกายแข็งแรง โรคภูมิแพ้ก็จะค่อยๆ หายจนเป็นปกติ